จากบทความใน EP1 ถึงจุดกำเนิดของแท็คติกจอดรถบัสขวางประตู ที่ โชเซ่ มูรินโญ่ นำไปใช้ที่คัมป์นู จนพา อินเตอร์ มิลาน ประกาศศักดาคว้าแชมป์ยุโรปในฤดูกาล 2009/2010 ได้ https://www.blogger.com/u/0/blog/post/edit/476988572270836351/1561508276197849715
หลังจากนั้น เขาได้ไปคุมทีมเรอัล มาดริด ซึ่งการคุมทีมระดับเรอัล มาดริด แล้ว เขาแทบไม่ได้งัดแผนรถบัสมาใช้เลย ด้วยคุณภาพนักเตะระดับโลก ทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, กาก้า, เซร์คิโอ รามอส, ชาบี อลอนโซ่, คาริม เบนเซม่า และ ดาวรุ่งฝีเท้าระดับโลกในขณะนั้นอย่าง เมซุต โอซิล, อังเคล ดิ มาเรีย
ด้วยความเป็นมูรินโญ่ที่เล่นรัดกุม บวกความสามารถเฉพาะตัวระดับโลกของผู้เล่นเกมรุก ทำให้เรอัล มาดริด ของมูรินโญ่ ยิงประตูจากการเค้าท์เตอร์ แอ๊คแท็ค หรือการสวนกลับเร็วปานสายฟ้าฟาดได้เยอะมาก ถือเป็น 1 ในยี่ห้อของเรอัล มาดริด ของมูรินโญ่ในยุคนั้นเลยทีเดียว ถ้าเราลองดูในยูทูปจะเจอกับไฮไลท์การสวนกลับสวยๆของเรอัล มาดริด ยุคมูรินโญ่เยอะมาก
จากนั้นเมื่อมาคุมเชลซีภาค 2 มูรินโญ่พัฒนาเป็นแผนรถบัสติดอาวุธครบมือ นำโดย เอเดน อาซาร์, ดีเอโก้ คอสต้า, เชส ฟาเบรกาส ซึ่งแผนการเล่นตามพิมพ์เขียวของมูรินโญ่ก็ยังคงใช้งานได้ดีอยู่ จนกระทั่งคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ในฤดูกาลที่ 2 จากนั้นก็ทีมแตกในฤดูกาลที่ 3 จากปัญหาการเสียความเชื่อมั่นในห้องแต่งตัว ทั้งเคสของหมอเอวาและนักเตะฟอร์มตกทั้งทีม
ประเด็นสำคัญที่ทำให้เราได้เห็นการดรอปลงของแผนรถบัส ของมูรินโญ่ เกิดจาก 2 ทีมถัดมาที่เขาได้เข้าไปคุมทีม ได้แก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และท๊อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส
โดยสาเหตุเราอาจจะแบ่งได้เป็น 3 หัวข้อใหญ่ๆ
1. การซื้อขายนักเตะ – เมื่อครั้งที่คุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีนักเตะหลายคนที่มูรินโญ่อยากได้ เช่น แฮร์รี่ แมคไกวร์ , โทบี้ อัลเดอไวเรล , อิวาน เปริซิส , วิลเลี่ยน แต่สุดท้ายกลับได้แต่นักเตะที่เป็นเป้าหมายรอง หรือนักเตะที่ซื้อมาเพื่อการตลาด ซึ่งสไตล์ของมูรินโญ่คือผู้จัดการทีมสำเร็จรูป ไม่ถนัดการปั้นนักเตะ แต่จะใช้เงินเสริมทัพที่ตรงจุดและคว้าแชมป์มาครอง การไม่ได้นักเตะมาเสริมทัพคือความลำบากของมูรินโญ่จริงๆ
หรือครั้งที่คุมท๊อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส แม้ว่าสเปอร์สจะมีการซื้อตัวที่ตอบโจทย์ของมูรินโญ่มากกว่า แต่การพลาดเป้าหมายอย่างมิลาน สกรีเนียร์ กองหลังจอมแกร่งจากอินเตอร์ มิลาน ไป ทำให้แนวรับของสเปอร์สไม่แน่นอย่างมูรินโญ่ต้องการ
2. กองหลังไว้ใจไม่ได้ - มูรินโญ่ เป็นผู้จัดการทีมที่มักจะให้ความสำคัญกับเกมรับค่อนข้างมาก ทีมของเขาต้องมีคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟที่แข็งแกร่ง โดยสมัยคุมเชลซีเป็น จอห์น เทอร์รี่ - ริคาร์โด้ คาวัลโญ่ สมัยคุมอินเตอร์ มิลานเป็น ลูซิโอ้ - วอลเตอร์ ซามูเอล สมัยคุมเรอัล มาดริดเป็น เซร์คิโอ รามอส - เปเป้ และรามอส - วาราน
แต่ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็น เอริค ไบยี่,วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ, คริส สมอลลิ่ง, ฟีล โจนส์, มาร์กอส โรโฮ และที่ สเปอร์ส มีผู้เล่นกองหลังเป็น เดวินซอน ซอนเชส, เอริค ดายเออร์, โทบี้ อัลเดอไวเรล (เวอร์ชั่นโรยราแล้ว) ซึ่งไม่มีใครเลยแม้แต่คนเดียว ที่เป็นกองหลังระดับเดียวกับที่มูรินโญ่เคยใช้ ประกอบกับเจ็บง่ายบ้าง เหวอบ้าง มีความผิดพลาดส่วนบุคคลเยอะบ้าง ทำให้มูรินโญ่ต้องการกองหลังระดับโลกมากๆ ถึงมากที่สุด แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ที่ทำให้เขาไม่ได้ใช้กองหลังแบบที่ต้องการ
3. ขาดความเชื่อมั่นในกลุ่มนักเตะ - มูรินโญ่ มีปัญหากับนักเตะมากมาย ทั้งตอนคุมแมนยูและสเปอร์ส ดังเช่น อองโตนี่ มาร์ซิอัล, พอล ป็อกบา, เดเล่ อัลลี่ โดยมูรินโญ่เป็นคนชอบใช้ไม้แข็งและอาจจะใช้วิธีจิตวิทยาแบบที่เคยทำมาในการกระตุ้นนักเตะ
แต่เมื่อยุคสมัยมันเปลี่ยนไป จิตวิทยาที่เคยใช้สำเร็จกับ เดโก้, จอห์น เทอร์รี่, ดีเอโก้ มิลิโต้ อาจจะใช้ไม่ได้ในยุคสมัยนี้อีกแล้ว มูรินโญ่ต้องการนักเตะที่เล่นเพื่อทีม เล่นเพื่อเขาจริงๆ แต่ด้วยการเปลี่ยนไปของยุคสมัย ทำให้ไม้แข็งอาจจะใช้ได้กับนักเตะบางคน เช่น ลุค ชอว์, ตองกีย์ เอนดอมเบเล่ แต่กลับใช้ไม่ได้ผลกับ เดเล่ อัลลี่, พอล ป็อกบา ทำให้นักเตะเหล่านั้นไม่สามารถเล่นเพื่อมูริญโญ่ได้ และลามไปถึงสปิริตทีมที่เสียหาย จนเสียการควบคุมห้องแต่งตัว ดังเช่นตอนจบกับ เชลซี ภาค2 และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ตอนสเปอร์สอาจจะมองว่ามีหลายๆองค์ประกอบที่ค่อนข้างโชคร้าย ที่ทำให้เขาต้องตกเก้าอี้กุนซือ
ปัจจุบัน ด้วยชื่อของโชเซ่ มูรินโญ่ ยังมีโอกาสให้เขาได้แก้ตัวอีกครั้งกับทีม อาแอส โรม่า ในกัลโช่ ซีเรีย อา ซึ่งเป็นลีกที่เขาเคยจากมาอย่างตำนาน ด้วยการคว้าทริปเปิ้ล แชมป์ กับอินเตอร์ มิลาน ซึ่งน่าจะเหมาะกับแท็คติกของเขา ที่เล่นอย่างรัดกุมและมีการเล่นด้วยแท็คติกที่ละเอียดมาก
มาลุ้นกันอีกที ว่าโชเฟอร์รถบัสคนนี้ จะฟื้นความขลังของแท็คติกจอดรถบัสนี้กลับมาอีกครั้งได้หรือไม่ หรือที่จริงแผนรถบัสของเขาจะตกยุคไปแล้วจริงๆ ...
- - - -
ติดตามในช่องทางอื่นได้ที่
Facebook: facebook.com/jodrodbus
Blockdit: blockdit.com/parkthebus
Blogspot: parkthebusth.blogspot.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น